วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ไม้ยืนต้นที่ให้ดอก


      ....พฤกษชาติคลี่ใบขยายกลิ่น
                   
ระรื่นรสรวยรินประทินหวาน
ขจรอบอวลไปในพนา
ซาบซ่านนาสาน่ารื่นรมย์
          ที่สูงโลดโดดเด่นเห็นจังก้า
                   
แผ่กิ่งก้านสาขาสง่าสม
ระบัดใบพลิกพลิ้วละลิ่วลม
ชื่นพนมชมพนาอ่าวิไล
          ไม้ดอกออกสพรั่งตาดารดาด
ตฤณชาติเขียวขจีสดสีใส
ดุจผืนพรมอันสะอาดปูลาดไป
                   
ประดับไว้ด้วยพฤกษานานาพันธุ์
          ต่างชนิดต่างสีต่างขนาด
                   
ที่แดงชาดช่อเชิดดูเฉิดฉัน
ม่วงเหลืองส้มชมพูฟ้าวิลาวัณย์
                   
สลับพรรณแลลานตระการตา
      .... งามมวลหมู่ผกาลดาชาติ
                   
วิไลวิลาสมากมีหลากสีสรรค์
ส่งกลิ่นหอมตลบไปทั่วไพรวัน
                   
พาใจฉันปลาตทุกข์สุขสราญ
      .... ตามริมฝั่งข้างธารสำราญชื่น
                   
ระรวยรื่นรสรินกลิ่นเกสร
ดอกพิกุลบุนนาคหลากพุดซ้อน
                   
ผึ้งภมรวิหคเหิรเพลินชมไพร ....

กระดังงา

เป็นไม้ต้นสูงประมาณ 8-15 เมตร ลำต้นเปลาตรง เรือนยอดรูปกรวยแหลม โปร่ง กิ่งเกือบตั้งฉากกับลำต้น ปลายกิ่ง ลู่ลงดินดอกสีเหลือง มีกลิ่นหอม ออกตามซอกใบ ออกดอกตลอดทั้งปี  ผลเป็นผลกลุ่ม เมื่อผลแก่จะเปลี่ยนสีจากสีเหลือง อมเขียว เป็นสีเหลืองและสีดำ ผลหนึ่งมี 4 - 5 เมล็ด เมล็ดกลมแบนขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดหรือกิ่งตอน
กระทุ่มนา

เป็นไม้ต้นผลัดใบสูงประมาณ 5 เมตร เรือนยอดแหลม ใบใหญ่ค่อนข้างกลม ออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน เนื้อใบค่อนข้างหนาออกดอกเป็นช่อกลมตามปลายกิ่ง แต่ละช่อมีกาบรองดอกใหญ่อยู่ 1 คู่ กลีบรองดอกเป็นหลอดปลายแยกกันเป็น 5 แฉก กลีบดอกโคนกลีบติดกันเป็นหลอดปลายหลอดแยกเป็น 5 แฉก  เกสรตัวผู้มี 5 อัน ติดที่กลีบดอกด้านใน ผลเล็ก  ผิวแข็ง อัดรวมกันกลม เมล็ดมีปีก ออกดอกในเดือนสิงหาคมกึงกันยายน  ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด
กฤษณา

เป็นไม้ต้นขนาดกลางสูงประมาณ 10-15 เมตร ลำต้นเปลา ตรง เรือนยอดเป็นพุ่มทรงเจดีย์ต่ำ เปลือกเรียบสีเทา ใบเป็นประเภทใบเดี่ยว มีสัญฐานรี แถบขอบขนาน ปลายใบแหลม ออกเรียงสลับกัน ผิวใบเป็นมันดอกสีเหลืองมีกลิ่นหอม ออกเป็นช่อเล็ก ๆ เป็นกระจุกตามง่ามใบและปลายกิ่ง ผลรูปทรงรีกลมแบน  เปลือกแข็งมีขนสีเทา  เมื่อผลแก่จะแตกกลีบรองดอกเจริญติดอยู่กับผลขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด 
 กาฬพฤกษ์

เป็นต้นไม้ผลิดใบสูงประมาณ 20 เมตร โคนต้นมีพูพอน เรือนยอดเป็นพุ่มกลม เปลือกสีดำแตกเป็นร่องลึก ใบเป็นประเภทใบประกอบ จำนวน 10-20 คู่ ใบออ่นจะออกสีแดง ผิวใบเกลี้ยงเป็นมัน หลังใบมีขนนุ่ม โคนและปลายใบมนกลมออกดอกเป็นช่อตามกิ่งข้าง ช่อหนึ่งมีประมาณ 20 ดอก ดอกมีขนาดเล็ก กลีบรองดอกกลมมีขน ขณะที่ดอกบานกลีบจะกระดกกลับ กลีบดอกรูปไข่ เมื่อดอกบานใหม่ ๆ จะเป็นสีแดง จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูและสีส้ม เกสรตัวผู้มี 10 อัน ขนาดไม่เท่ากัน ฝักแข็ง กลม ผิวขรุขระสีดำ ยาวประมาณ 30 เซนติเมตร กว้างประมาณ 3 เซนติเมตร มีเมล็ดอยู่ประมาณ 30 เมล็ด ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

กันเกรา
 


เป็นไม้ต้นสูงประมาณ 10-15 เมตร เปลือกหยาบสีน้ำตาลเข้ม แตกเป็นร่องลึก ใบมีสัญฐานรูปรี ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร ปลายและฐานใบแหลม ใบหนาออกดอกเป็นกระจุกบนก้านช่อสั้น ๆ เมื่อดอกเริ่มบานออกสีขาวแล้วเปลี่ยนเป็นสีเหลือง กลิ่มหอม ผลกลมเล็กสีส้ม เมื่อผลสุกจะออกสีแดง เมล็ดขนาดเล็ก ออกดอกเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม กันเกราจะขึ้นตามป่าเบญจพรรณชื้น และตายที่ใกล้น้ำ ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

กัลปพฤกษ์
 

เป็นไม้ต้นผลัดใบขนาดกลางสูงประมาณ 12 เมตร เปลือกสีเทา เรือนยอดแผ่กว้างทุกส่วนมีขนปกคลุมหนาแน่น ใบเป็นประเภทในประกอบมีใบย่อย 5-7 คู่ ใบย่อยรูปขอบขนาน มีขนอ่อนทั้งหน้าและหลังใบดอกสีชมพูเข้มออกเป็นช่อ ตามกิ่งแล้วเปลี่ยนเป็นสีขาว จะออกดอกหลังการผลัดใบพร้อมผลิใบใหม่ ผลเป็นฝักเมื่อฝักแก่จะออกสีน้ำตาลเข้ม ฝักยาวประมาณ 30-40 เซนติเมตร มีเมล็ดอยู่ประมาณ 30-40 เมล็ดต่อฝัก
ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน ชอบขึ้นตามป่าเขาหินปูน และป่าเบญจพรรณแล้งทั่วไป เป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด 
 กุ่มน้ำ
เป็นต้นไม้สูงประมาณ 5-12 เมตร เรือนยอดแผ่กระจาย หรือรูปทรงกลม ใบเป็นประเภทใบประกอบแบบนิ้วมือ ประกอบด้วยใบย่อย 3 ใบ ปลายใบย่อยแหลมเรียว ใบจะร่วงหมดต้นขณะมีดอก ดอกสีเหลืองนวล เกสรสีม่วง ผลรูปกลม หรือรูปไข่สีเทา ผิวนอกแข็งและสาก พบตามริมน้ำทั่วไป ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด